ประวัติของ Charm Bracelet
จุดเริ่มต้นของการสวมใส่ชาร์มนั้น ก็เช่นเดียวกับการห้อยพระของไทยนั่นเอง คือสวมใส่ชาร์ม(Charm)ไว้เป็นเครื่องลางเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายหรือความโชคร้าย
ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ เครื่องประดับชาร์ม (Charm) นั้นจะทำมาจากเปลือกหอยกระดูกสัตว์หรือดินเหนียว แล้วหลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอัญมณี แร่หินและไม้
ขอยกตัวอย่างชาร์มที่มีหลักฐานอ้างอิงจากหลายๆ แห่งบนโลก อาธิเช่น ได้มีการค้นพบเครื่องประดับชาร์มทางแถบทวีปแแอฟริกา ซึ่งทำจากเปลือกหอย และมีอายุราวๆ 75,000 ปี, ส่วนในประเทศเยอรมันก็มีชาร์มที่ทำจากงาของช้างแมมมอธแกะสลัก มีอายุราวๆ 30,000 ปี และในความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ พวกเขาก็ใช้ชาร์มเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และความโชคดี และชาร์มก็ยังเป็นเครื่องประดับสำหรับพระเจ้า เพื่อระบุตัวตนของพระองค์หลังจากฟื้นคืนชีพจากความตาย
ในช่วงของจักรวรรดิโรมันรุ่งเรือง ชาวคริสเตียนจะมีชาร์มเป็นรูปปลาตัวเล็กๆ ซ่อนเก็บอยู่ในเสื้อผ้าของพวกเขา ไว้เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองกับคริสเตียนคนอื่นๆ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นนักวิชาการชาวยิว ก็จะเขียนข้อกฎหมายของพวกยิวและใส่ไว้ในชาร์ม ห้อยไว้รอบคอของพวกเขา โดยมีนัยยะที่ว่าให้กฎหมายได้อยู่ใกล้หัวใจของพวกเขาตลอดเวลา แม้แต่อัศวินยุคกลางก็ยังสวมใส่ชาร์มเช่นกัน เพื่อปกป้องตัวเองจากการต่อสู้ในสนามรบ ชาร์มนิยมสวมใส่กันในยุคมืดเพื่อแสดงถึงแหล่งกำเนิดของครอบครัวและความเชื่อมั่นทางศาสนาและการเมือง
สร้อยข้อมือ ชาร์ม(Charm Bracelet)นั้นได้รับกระแสความนิยมมาจากหลายๆทาง และ สร้อยข้อมือ ชาร์มชิ้นแรกได้ถูกสวมใส่โดยชาวอัสซีเรีย บาบิโลเนีย เปอร์เซียและฮิตไทต์ และเริ่มปรากฎขึ้นเมื่อ 600-400 ปีก่อนคริสตกาล
ยังมีอีกหนึ่งตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้สร้อยข้อมือชาร์มเป็นที่นิยมมาก ก็คือ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ ท่านรักการสวม สร้อยข้อมือ ชาร์ม และยังเป็นผู้ที่ริเริ่มแฟชั่นชาร์มในหมู่ชนชั้นสูงของยุโรป ชาร์มได้เป็นเครื่องประดับที่นิยมมากในเวลานั้น เนื่องมาจาก พระองค์ได้ทำชาร์มแกะสลัก โดยใส่ภาพวาดและเส้นผมของเจ้าชายอัลเบิร์ตไว้ในล็อคเก็ตชาร์ม เพื่อเป็นการไว้ทุกข์ และระลึกถึงพระสวามีของพระองค์ หลังจากสินพระชนม์ไปแล้ว
ในปี 1889, ทิฟฟานี่ แบรนด์เครื่องประดับสุดหรู ได้ทำการเปิดตัว สร้อยข้อมือ ชาร์มครั้งแรกของพวกเขา สร้อยข้อมือ ที่มีสายโซ่และหัวใจเดียวห้อยจากสร้อยข้อมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นมากสำหรับทิฟฟานี่จนถึงทุกวันนี้
แม้กระแสความนิยมจะตกต่ำลงในช่วงปี ค.ศ. 1920 ถึง 1930 แพลทินัมและเพชร ก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการผลิต สร้อยข้อมือ ชาร์ม
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากสงครามสงบลงแล้ว เหล่าทหารได้สั่งทำเครื่องประดับชาร์มจากช่างฝีมือในเขตพื้นที่ที่พวกเค้าได้ไปรบ เพื่อนำกลับบ้านไปมอบให้กับคนรักที่รอคอยพวกเค้าอยู่ที่บ้าน, วัยรุ่นอเมริกันในช่วงปี 1950 จนถึงต้นปี 1960 ก็ได้มีการเก็บสะสมชาร์มเช่นกัน เพื่อเป็นที่ระลึกในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา อย่างเช่น ชาร์มที่เป็นสัญญลักษณ์ของอลิซาเบธ เทย์เลอร์และโจแอนนา ครอว์ฟอร์ด ก็เป็นทีสนใจและนิยมสะสมอย่างมาก
ถึงแม้ความนิยมและการผลิตจะลดหายลงไปบ้างในช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 หลังจากนั้นก็ได้มีการฟื้นตัวของความนิยมกลับมาอีกครั้งหลังจากปี 2000 และนักสะสมของโบราณต่างก็กระหายหา สร้อยข้อมือชาร์มสไตล์วินเทจ เนื่องมาจากแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์โจรสลัดในทะเลคาริบเบียนที่โด่งดัง สร้อยข้อมือ ชาร์มประดับด้วยดาบ ไม้กางเขนและกะโหลกศีรษะ ถูกนำมาเป็นเทรนด์แฟชั่นอีกครั้งในช่วงฤดูหนาวของปี 2006
European Charm Bracelets
สร้อยข้อมือ ชาร์มสไตล์ยุโรป เริ่มต้นเมื่อปี 2002 เทรนด์ใหม่สำหรับสร้อยข้อมือชาร์มได้เกิดขึ้นทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งประกอบด้วยสร้อยหรือกำไลข้อมือ ทีสามารถถอดแยกชิ้นส่วนใช้ห่วงโซ่คล้องกัน และสามารถใส่ลูกปัดหรือชาร์ม (Charms) แทนกันได้ ชาร์มนั้นผลิตขึ้นจากทองคำ เงินแท้ หรือแก้วมูราโน่ ถูกนำมาใส่รวมกันตามแต่รสนิยมของผู้สวมใส่ ลูกปัดเหล่านี้มีการผลิตออกมามากมาย มีทั้งรูปสัตว์ รูปคน ดอกไม้ สัญลักษณ์ต่างๆ ตัวอักษร ตัวการ์ตูน แบ่งแยกไปตามความสนใจหรือหมวดหมู่ เพื่อสนองต่อความต้องการของผู้สวมใส่ ราคาของลูกปัดเหล่านี้ มีตั้งแต่น้อยที่สุด $20 ไปจนถึงหลายร้อยดอลลาร์ขึ้นอยู่กับมูลค่าของวัสดุที่ผลิต ทองคำ ทองคำขาวและเพชร
![]() |
Trollbreads |
คุณลักษณะที่สำคัญของลูกปัดจากแบรนด์ดังเหล่านี้คือ จะสามารถใส่เข้ากันได้กันเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น ชาร์มของ Novobeads สามารถสวมใส่บน สร้อยข้อมือ Chamilia แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ Pandora ซึ่งเป็นข้อยกเว้น สร้อยข้อมือของแบรนด์ดังเหล่านี้จะเป็นลักษณะเหมือนเกลียวถักขึ้นมา และชาร์มก็ถูกออกแบบมาเพื่อสกรูยึดกับตัวสร้อยให้พอดี ดังนั้นหากต้องการที่จะใส่ชาร์มต่างแบรนด์กันบน สร้อยข้อมือ Pandora หลุมของชาร์มจะต้องมีขนาดใหญ่พอกับขนาดของสร้อยข้อมือ Pandora
สร้อยข้อมือ ลูกปัดของแบรนด์เหล่านี้ สามารถเลือกปรับแต่งได้ตามใจชอบ อย่าง Trollbeads หากคุณซื้อสร้อยคอของแบนรด์นี้ ก็จะไม่มีตัวล็อคสร้อย (Clasps) มาพร้อมกับสร้อยคอ แต่คุณก็มีตัวเลือกอื่นอีกหลายแบบให้เลือกเช่นกัน อาจจะใช้เป็นตัวตะขอเกี่ยวคล้องกันก็ได้
กระแสแฟชั่นสำหรับเครื่องประดับแบบแยกส่วน 'เพิ่มลูกปัด' ประสบความสำเร็จและเฟื่องฟูในยุค 80
Italian Charm Bracelets

อ้างอิงจาก : wikipedia.org
แปลและเรียบเรียงโดย : เมธิตา สร้อยสังวาลย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น